ภาวะเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด

ภาวะเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด

  เลือดออกในมดลูกผิดปกติ (DUB) คือเลือดออกผิดปกติ ไม่เกี่ยวข้องกับช่วงเวลาปกติของคุณ ปัญหาที่พบบ่อยมากนี้ ซึ่งไม่ได้มีสาเหตุเดียว

สาเหตุ

สาเหตุที่พบบ่อยคือความผิดปกติของฮอร์โมน ส่วนใหญ่มักเกิดจากรังไข่ไม่ได้ผลิตไข่ในหนึ่งรอบนั้น รอบเดือนนี้เรียกว่า anovulatoryZ (หรือไข่ไม่ตก) การไม่ตกไข่เป็นเรื่องปกติมาก ผู้หญิงมีรอบการไม่ตกไข่หนึ่งหรือสองครั้งในแต่ละปีเลือดออกผิดปกติอาจมีสาเหตุอื่น ๆ ได้แก่มดลูก fibroids (เนื้องอกที่มดลูก), ติ่งเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูก ความผิดปกติของปากมดลูก การแท้งบุตร และมะเร็งมดลูก(โดยมากในผู้หญิงก่อนหรือหลังวัยหมดระดู)

อาการ
บางครั้งเลือดออกต่อเนื่องจากช่วงเวลาหนึ่งไปยังอีกช่วงเวลาหนึ่ง บางครั้งอาจเลือดออกมากหรือมากระปิดกระปรอย อาการเลือดออกผิดปกติ อาจมีเลือดออกระหว่างรอบเดือน—เลือดออกไม่กี่วันก็หยุด หรือสองสามวันแล้วมีเลือดออกอีกครั้ง—จนกว่าจะมีประจำเดือนครั้งถัดไป

วินิจฉัย
แพทย์จะวินิจฉัยการเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดจากประวัติทางการแพทย์และตรวจร่างกาย การตรวจเลือดและอัลตราซาวนด์อาจทำเพื่อตัดสาเหตุอื่นออก

รักษา
เลือดออกทางช่องคลอดส่วนใหญ่หายเองและไม่ต้องการการรักษา เลือดออกผิดปกติมักจะหยุดหลังจากประจำเดือนมา อย่างไรก็ตามบางครั้งเลือดออกมากอาจทำให้เสียเลือดจนต้องการการรักษา การไหลหนักสามารถลดลงได้โดยการใช้ฮอร์โมนโปรเจสติน เช่น medroxyprogesterone ผลข้างเคียง ได้แก่ รู้สึกท้องอืด เจ็บเต้านมลดลง ปวดหลัง หงุดหงิดง่าย และซึมเศร้าเล็กน้อย อย่างไรก็ตามโดยปกติจะใช้โปรเจสตินเป็นเวลา 7 ถึง 10 วัน ดังนั้นจะอยู่สักพัก ยาคุมกำเนิดสามารถใช้ได้ชั่วคราวเพื่อควบคุมเลือดที่ออกมาก อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้เล็กน้อย การรักษาที่เรียกว่าการขยายและการขูดมดลูก (D&C) ไม่ค่อยมีความจำเป็นในการควบคุมเลือดออก ระหว่างการขูดมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ที่จะ ถูกขูดออก

ควรไม่ควร
กินยาตามคำแนะนำ
พบแพทย์ของคุณหากประจำเดือนของคุณนานกว่า 7 หรือ8 วัน หรือมีเลือดออกระหว่างรอบเดือน หรือเลือดออกไม่หยุด.

พบแพทย์ของคุณหากประจำเดือนของคุณมามากกว่าปกติ เช่น ผ้าอนามัยชุ่มแผ่นใหญ่หรือเปลี่ยนผ้าอนามัยแบบสอดทุก 2 ชั่วโมงหรือมีก้อนลิ่มเลือดใหญ่ออกมา

พบแพทย์หากมีเลือดออกมากและรู้สึกวิงเวียนหรืออ่อนแรง ความรู้สึกเหล่านี้อาจเป็นอาการของโรคโลหิตจางขั้นรุนแรง

พบแพทย์ของคุณหากคุณกำลังตั้งครรภ์

อย่าหยุดยาก่อนกำหนด (แม้ว่าเลือดจะหยุดไหลแล้วก็ตาม)เว้นแต่แพทย์จะสั่ง