หลอดเลือดตีบ

Last updated: 6 ส.ค. 2567  |  2319 จำนวนผู้เข้าชม  | 

หลอดเลือดตีบ

หลอดเลือดตีบ


  เป็นการตีบของ carotid artery หลอดเลือดแดงนี้เป็นหลอดเลือดหลักที่นำเลือดที่มีออกซิเจนไปสมอง. หลอดเลือดตีบเกิดขึ้นใน 5 ใน 1,000 ในคน 50 - 60 ปีและ พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ 100 จาก 1,000 คนแก่กว่า80

สาเหตุ 
  สาเหตุมักเกิดจากการสะสมของไขมันที่เรียกว่า plaques (ในหลอดเลือด) สาเหตุที่พบได้น้อยกว่าคือหลอดเลือดโป่งพอง การอักเสบของหลอดเลือดแดง (arteritis) และการแตก (dissection) ของ หลอดเลือด carotid  Fibromuscular dysplasia ความเสียหายของเนื้อเยื่อหลังการฉายรังสี (เนื้อร้ายหลังฉายรังสี) และอาการหดเกร็งของหลอดเลือด ปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ ความดันโลหิตสูงค่าไขมันสูง เบาหวาน และการสูบบุหรี่

อาการ

คนส่วนใหญ่มักไม่มีอาการใด ๆ จนกว่าระดับการตีบรุนแรง และอาจพบหลอดเลือดสมองตีบที่เรียกว่าขาดเลือดชั่วคราว (TIAs) TIA ส่วนใหญ่มีอาการน้อยกว่า 10นาที เกิดจากการที่เลือดไหลเวียนไปยังส่วนใดส่วนหนึ่งของสมองจะหยุดชั่วขณะหนึ่ง อาการขึ้นอยู่กับว่าหลอดเลือดแดงใดได้รับผลกระทบ อาการทั่วไปของ TIA ได้แก่อ่อนแรงหรือชาที่ด้านใดด้านหนึ่งของใบหน้าหรือลำตัว (ใบหน้า แขน ขา) การมองเห็นเปลี่ยนไป สับสน พูดไม่ชัด พูดไม่ได้ และมีปัญหาในการกลืนด้วย

การวินิจฉัย 
แพทย์ทำการวินิจฉัยจากแพทย์ประวัติและการตรวจระบบประสาทอย่างระมัดระวัง  ตรวจร่างกายจากการฟังหลอดเลือดแดง carotid ด้วยstethoscopeเสียงจากการ ไหลเวียนของเลือดผิดปกติที่เรียกว่า carotid bruit การทดสอบทางห้องแล็บเพื่อวัดระดับไขมัน (คอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์) และวัดระดับน้ำตาลในเลือดและแพทย์ตรวจอัลตราซาวนด์ของหลอดเลือดแดงเพื่อประเมินระดับความตีบของหลอดเลือดcarotid การฉีดสีหลอดเลือด angiography และ magnetic resonance angiography (MRA) อาจจำเป็นก่อนการผ่าตัดเพื่อประเมินและดูตำแหน่งของหลอดเลือดก่อนการผ่าตัดโดยแพทย์เฉพาะทางประสาทวิทยา ศัลยแพทย์หลอดเลือด)

การรักษา

 การรักษาขึ้นอยู่กับระดับของการตีบและอาการ สามารถรักษาด้วยยาหรือผ่าตัด รวมถึงการลดความเสี่ยง (การเลิกบุหรี่ การควบคุมระดับไขมันในเลือดสูงและเบาหวาน) และแอสไพรินขนาดต่ำ (81 หรือ 325 มก. ต่อวัน) ผ่าตัดหลอดเลือดตีบเรียกว่า carotid endarterectomy (CEA) มักทำในคนที่มีอาการและหลอดเลือดตีบ 70% ถึง 99% ในคนที่มีอายุขัยมากกว่า 5 ปี ศัลยแพทย์ที่ทำ CEA มีบทบาทสำคัญในการกำหนดความสำเร็จของการผ่าตัด



    สิ่งที่ควรทำ

ควรกินอาหารที่มีผักผลไม้และถั่ว จำกัดไขมัน ไม่กินอาหารแปรรูป


   ห้ามทำ

ห้ามเพิกเฉยต่ออาการ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงหลัง การรักษาหรือมีอาการใหม่

 ห้ามหยุดรับประทานยาหรือเปลี่ยนขนาดยา แม้รู้สึกดีขึ้นเว้นแต่แพทย์อนุญาต

 ห้ามใช้ยาใด ๆ (รวมทั้งที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์และผลิตภัณฑ์สมุนไพร) โดยไม่ปรึกษาแพทย์

 ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบเพราะมีความเสี่ยงหลอดเลือดตีบในสมอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้