Last updated: 6 ส.ค. 2567 | 10846 จำนวนผู้เข้าชม |
กล้ามเนื้อหน้าแข้งอักเสบ
หมายถึงกลุ่มของปัญหาที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดในกระดูกหน้าแข้ง ซึ่งเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าส่วนล่างขา ปัญหาเหล่านี้รวมถึงโรคความปวดในกระดูกแข้ง (สาเหตุส่วนใหญ่ของเฝือกหน้าแข้ง) กระดูกหัก และเท้าแบนหรือเท้าโค้งสูง นักเต้นและนักกีฬา เช่น นักวิ่งหรือนักเดินเร็ว ผู้เดินสามารถมีอาการปวดที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายได้ ผู้ที่เล่นฟุตบอล วิ่งเหยาะๆ หรือฝึกซ้อมเพื่อการแข่งขันมีความเสี่ยงที่จะมีอาการปวดหน้าแข้ง ทั้งสองประเภทคือ anterolateral (ด้านหน้า, ด้านนอก) และด้านหลัง (ด้านหลัง, ด้านใน)
สาเหตุ
ความเจ็บปวดเกิดจากการอักเสบ จากการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และกระดูกส่วนนอก สาเหตุรวมถึงใช้งานมากเกินไป เอ็นร้อยหวายตึ กล้ามเนื้อข้อเท้าอ่อนแรง ส่วนโค้งแบน โค้งสูงและเพิ่มความเข้มความถี่หรือเพิ่มขึ้นบ่อยอย่างกะทันหัน ระยะเวลาของกิจกรรม วิ่งลงเนินหรือบนพื้นลาดเอียง เล่นกีฬาที่มีการเริ่มและหยุดบ่อย (บาสเก็ตบอล เทนนิส) ฝึกซ้อมหนักหรือนานเกินไป และสวมรองเท้าที่ชำรุดก็ทำให้เกิดได้เช่นกัน
อาการ
มีอาการหน้ามืด ปวดตามกระดูกหน้าแข้งหรือส่วนล่างกล้ามเนื้อขา การกดเท้าลงไปที่แรงต้านอาจทำให้เกิดอาการปวด อาจเกิดอาการกดเจ็บ ปวด หรือบวมเล็กน้อยได้
วินิจฉัย
แพทย์ทำการวินิจฉัยจากประวัติทางการแพทย์และการตรวจร่างกาย การศึกษาเกี่ยวกับภาพ เช่น เอ็กซเรย์ กระดูก การสแกนหรือการถ่ายภาพด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก (MRI) อาจช่วยค้นหาได้ ปัญหาอื่น ๆ เช่น กระดูกหัก (Stress Fractures)
รักษา
เป้าหมายการรักษาคือการกลับไปทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยเร็วที่สุดอย่างปลอดภัย การกลับมาเร็วเกินไปอาจทำให้อาการบาดเจ็บแย่ลง ใช้ RICE (การพัก น้ำแข็ง การกดทับ และการยกขา) พักผ่อนและหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดปัญหาเป็นสิ่งสำคัญ ประคบน้ำแข็งหรือนวดน้ำแข็งนานถึง 20 นาที สามครั้งต่อวัน เป็นเวลา 2-3 วัน หรือจนกว่าอาการปวดจะหายไป การยืดพิเศษและการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงเช่นการยกนิ้วเท้ามักช่วยได้ ยกขาสูงกับหมอน นักกายภาพบำบัดอาจมีส่วนร่วมการรักษา มาตรการอื่น ๆ ได้แก่ การสวมรองเท้าที่เหมาะสมรองรับส่วนโค้ง (กายอุปกรณ์), การปั่นจักรยานอยู่กับที่หรือวิ่งในสระ ออกกำลังกายช่วงการเคลื่อนไหวและช้า ๆ ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) (ไอบูโปรเฟน อะเซตามิโนเฟน แอสไพริน) อาจบรรเทาอาการปวดแต่อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและควรรับประทานพร้อมมื้ออาหาร
19 ก.ค. 2566
15 ก.พ. 2566
15 ก.พ. 2566
15 ก.พ. 2566