Last updated: 6 ส.ค. 2567 | 5633 จำนวนผู้เข้าชม |
โรคตับแข็ง
เป็นที่เกิดจากตับที่เต็มไปด้วยผังผืดมาเป็นเวลานาน จึงทำให้ตับไม่สามารถทำงานได้ ความรุนแรงขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ตับยังเหลือพอที่จะทำงานได้เป็นปกติ
สาเหตุ
เป็นได้หลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นคือการดื่มเหล้าเป็นเวลานานๆ รวมถึงการกินยา หรือยาเสพติด ไขมันพอกตับ การติดเชื้อ การส่งต่อทางพันธุกรรมเช่น ภาวะเหล็กเกินและไปสะสมตามอวัยวะต่างๆ (hemochromatosis ) หรืออวัยวะผลิตสารคัดหลั่งมากเกินไป(cystic fibrosis)
โรคตับอักเสบจากไวรัส หรือสารพิษที่มีผลทำลายตับ และโรคของท่อน้ำดี
อาการ
อาการเริ่มแรก จะรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่อยากอาหาร อาเจียน น้ำหนักลด ตับโต ฝ่ามือฝ่าเท้าแดง ระยะท้ายๆจะพบอาการเหลืองของตาและผิวหนัง ปัสสาวะสีเข้ม ผมร่วง พบเส้นเลือดลักษณะคล้ายแมงมุมตามตัว นมโตในผู้ชาย เขียวช้ำและเลือดออกง่าย ท้องเสีย มีภาวะสับสน
ท้องบวมน้ำ ขาบวมกดแล้วบุ๋ม ม้ามโต มีริดสีดวง และอาจโคม่าได้
การวินิจฉัย
จากการซักประวัติ ตรวจร่างกาย เอกซเรย์ CT scan ตัดชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด
การรักษา
หลักการสำคัญคือแก้ที่สาเหตุ และรักษาตามอาการเช่น กินอาหารที่แคลอรี่สูง มีโซเดียว จำกัดน้ำ เพื่อลดการสะสมของน้ำในท้อง
สำหรับผู้ป่วยที่มีท้องมานหรือมีน้ำสะสมในท้องปริมาณมาก ควรให้ยาdiuretic เพื่อขับน้ำออก ส่วนยาตัวอื่นให้เพื่อควขคุมอาการทางสมองอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นได้ สำหรับการรักษาภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นเช่นความดันของเส้นเลือดบริเวณท้องเพิ่มขึ้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ
ยาและการส่องกล้องผ่านปากเป็นการรักษาหลอดเลือดดำที่ขยายขนาดขึ้นบริเวณหลอดอาหารเพื่อป้องกันไม่ให้เลือดออกในช่องท้อง
และ การผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายหลอดเลือดหรือเปลี่ยนถ่ายตับก็เป็นหนึ่งในทางเลือกกการรักษา
สิ่งที่ควรทำ
ควรหยุดดื่มเหล้า
ควรกินอาหารให้สมดุล ไม่ควรกินโปรตีนมากเกินไป
ควรเปลี่ยนพฤติกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายจะทำให้อาการเหนื่อยดีขึ้น
ควรได้รับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี หากคุณอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อ
ควรรีบแจ้งแพทย์ทันทีหากในระหว่างการรักษา หากอาเจียนเป็นเลือดสด อุจจาระสีดำ หรือมีเลือดปน หรือท้องบวมน้ำ ขาบวมมากขึ้นหรือมีไข้
ห้ามทำ
ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เลย
ห้ามใช้ยาจำพวกacetaminophen sedative tranquilizer ซึ่งมีผลทำลายตับ
16 ส.ค. 2566
19 ก.ค. 2566
16 ส.ค. 2566
16 ส.ค. 2566