งูสวัดหรือโรคเริม

Last updated: 6 ส.ค. 2567  |  10134 จำนวนผู้เข้าชม  | 

งูสวัดหรือโรคเริม

 

งูสวัดหรือโรคเริม

1. รักษาแผลให้สะอาด ในระยะเป็นตุ่มน้ำใสที่มีอาการปวดแสบปวดร้อนให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเกลืออุ่นๆ หรือ กรดบอริก 3% ปิดประคบไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วชุบเปลี่ยนใหม่ ทำวันละ 3-4 ครั้ง

2. ในระยะตุ่มน้ำแตกมีน้ำเหลืองไหลต้องระมัดระวังการติดเชื้อ ควรมาล้างแผลที่ รพ.

3. ถ้าปวดแผลมากสามารถรับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล ได้

4. ไม่ควรใช้เล็บแกะเกาตุ่มงูสวัดเพราะอาจทำให้ มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน กลายเป็นตุ่มหนอง แผลหายช้า และกลายเป็นแผลเป็น

5. การรับประทานอาหาร  สามารถรับประทานได้ทุกอย่าง โดยไม่มีข้อห้าม

6. ไม่ควรเป่า หรือพ่นยาลงบนแผล เพราะจะทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน แผลหายช้า และกลายเป็นแผลเป็นหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำลาย น้ำเหลืองของผู้ป่วยทั้งทางตรงและทางอ้อม

7. ถ้าเป็นเริมใกล้ตา ควรปรึกษาจักษุแพทย์ เพราะอาจทำให้ตาบอดได้

8. หลีกเลี่ยงสาเหตุกระตุ้นให้เป็นซ้ำ ควรรักษาสุขภาพร่างกายให้

9. สม่ำเสมอ ทำจิตใจให้แจ่มใส พักผ่อนให้เพียงพอ

10. หากเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ ควรงดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะหาย

11. สตรีที่ตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ อาจมีผลถึงทารกในครรภ์ และขณะคลอด

 

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้