Last updated: 6 ส.ค. 2567 | 7001 จำนวนผู้เข้าชม |
เบาหวานชนิดที่ 1(DIABETES MELLITUS TYPE1)
เบาหวานชนิดที่หนึ่งจะเป็นตลอดชีวิต ป้องกันการรับพลังงานจากอาหารมากเกินไป ส่วนใหญ่ตรวจพบในอายุ 12-15ปี ซึ่งเบาหวานชนิดนี้เกิดจาก เบต้าเซลล์ในตับอ่อนไม่มาสามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินได้ ซึ่งอินซูลินทำหน้าที่ช่วยดูดซึมน้ำตลเข้าสู่เซลล์ ซึ่งร่างกายต้องการใช้พลังงานเป็นจำนวนมาก แต่คนที่เป็นเบาหวานมีน้ำตาลในเลือดสูงแต่เอาไปใช้ไม่ได้ และไม่เพียงพอที่เอาเข้าไปใช้ในเซลล์ร่างกาย
สาเหตุ
เกิดจากภูมิคุ้มกันขอตัวเองไปทำลาย เบต้าเซลลืในตับอ่อน ทำให้ไม่สามารถผลิตอินซูลินออกมาได้ ส่วนสาเหตุอื่นเช่น cystic fibrosis การอักเสบรุนแรงของตับอ่อน
อาการ
ปัสสาวะบ่อย หิวน้ำ อยากกินอาหาร ติดเชื้อง่าย น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว เหนื่อย และอ่อนแรง หากไม่สามารถควบคุมน้ำตาลได้ อาจมีภาวะแทรกซ้อนเช่น ตาพร่ามัวหรือบอด แผลหายช้า ชาตามปลายมือเท้า ไตพังต้องฟอกไต ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง คือภาวะเลือดเป็นกรดจากการที่ร่างกายสลายสารที่ชื่อว่าคีโตนออกามจากไขมันในร่างกาย นั่นเป็นอันตรายต่อสมองและอวัยวะอื่นๆ
การวินิจฉัย
ดูจากประวัติการรักษา การตรวจร่างกาย และวัดระดับน้ำตาลในเลือด ทุก2-3เดือน HbA1c test glucose tolerance test และตรวจการทำงานของไต วัดระดับครีตินิน และตรวจปัสสาวะดูไมโครแอลบูมิน
การรักษา
กินอาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวานและคอยตวจเช็คระดับน้ำตาลในเลือด แพทย์อธิบายการใช้ยา ฉีดอินซูลินที่บ้าน เด็กอายุ7-10ก้ควรเช็คว่าเป็นเบาหวานหรือไม่ แพทย์แนะนำให้ออกกำลังกายเพราะมีผลกับระดับน้ำตาลในเลือด ดูแลเท้าอย่าให้เป็นแผล ตรวจตาสม่ำเสมอเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน หากพบว่าเป็นตั้งแต่เด็กควรรีบปรึกษาให้หมอดูแลเป็นดีที่สุด
สิ่งที่ควรทำ
ควรเตรียมอาหารและขนมสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่อยู่ในสิ่งที่แพทย์กำหนด
ควรแน่ใจว่าเด็กได้ออกกำลังกายและพักผ่อนเพียงพอ
ควรรีบแจ้งแพทย์ทันทีหากตรวจพบน้ำตาลในเลือดสูง
ควรไปโรงพยาบาลทันทีหากพบเด็กชัก ปลุกไม่ตื่น หมดสติ
ควรฉีดอินซูลินตามเวลาที่แพทย์สั่ง
ห้ามทำ
ห้ามให้เด็กกินของหวานมากเกินไป
ห้ามฉีดอินซูลินเกินที่กำหนด
ห้ามให้กินอาหารอื่นๆนอกจากที่แพทย์สั่ง